pizza

Author: Food Page // Category:






วิธีทำแป้งพิชซาส่วนผสม สำหรับ 3 ชิ้นโต
แป้งสาลี 500 กรัมยีสต์ 1 ซอง ( levure de boulangerie ) หาซื้อได้ตาม ซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
น้ำ ประมาณ 250 มล.
เกลือ ½ ช้อนชา
ใข่ 1 ฟอง
น้ำตาลทรายขาว 1 ชต. เต็มๆ
วิธีทำ
1. เอายีสต์มาผสมกับน้ำประมาณ 1 ชต และน้ำตาล 1 ชช. พักไว้ประมาณ 10 นาที จนขึ้นฟอง
2. นำแป้งใส่ชามผสม ทำหลุมตรงกลาง ต่อยใข่ใส่ลงกลางหลุม ตามด้วยเกลือ และน้ำตาล คนให้เข้ากัน แล้วจึงใส่ยีสต์ และน้ำ
3. ผสมให้เข้ากันดี แล้วนวดประมาณ 5 นาที ลูกไก่ใช้เครื่องตีที่เป็นเกลียว ผสมแป้ง แล้วจึงนวดด้วยมือ เพราะเวลาใช้มือผสมแป้ง มันติดไม้ติดมือน่ารำคาญ โรยแป้งนิดหน่อยถ้าติดมือมากเกินไป
4. คลุมผ้าแล้วพักไว้ ประมาณ 1 ชม. ให้แป้งขึ้นประมาณเท่าตัว ถ้าอากาศร้อนหน่อย แป้งจะขึ้นเร็ว หน้าหนาวใช้เวลานานหน่อย ลูกไก่จะวางไว้บน ฮีทเตอร์
5. ทุบแป้งที่ขึ้นดีแล้วด้วยกำปั้นให้ยุบลง แล้วแบ่งเป็นก้อนกลมๆ ก้อนหนึ่งซักประมาณ 250 กรัม ถ้าชอบแบบแผ่นบางก็ก้อนละ 200 กรัม จากนั้นก็ปิดผ้าพักไว้อีก
6. ต่อไปก็เตรียมหน้าพิชซานะคะ อันนี้แล้วแต่ชอบว่าจะใส่ แฮม เห็ด ซาลามี โอลีฟ ซีฟูด พริกหวาน หรือ อื่นๆ แต่ที่ขาดไม่ได้ก็คือ ซอสมะเขือเทศ (แบบสำเร็จรูปสะดวกดีค่ะ) ชีสมอสซาเรลลาหั่นชิ้นเล็กๆ และออริกาโน หรือ ที่ภาษาฝรั่งเศส เรียกว่า Origan
7. นำถาดพิชซามาทาน้ำมันมะกอกซักหน่อย แล้วค่อยนำแป้งมาแผ่ให้เต็มถาด แป้งทา น้ำมันมะกอกก่อนจะแผ่ให้แบนๆง่ายขึ้น จากนั้นก็ใช้ปลายส้อมจิ้มให้ทั่วแผ่นแป้ง เพื่อทำรูระบายอากาศ เวลาอบแล้วจะได้แป้งออกมาเรียบสวย ไม่ โป่งๆพองๆ
8. จากนั้นนำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศา ประมาณ 5 นาที
อบแล้วก็จะออกมาหน้าตาแบบนี้ค่ะ9. ทาซอสมะเขือเทศให้ทั่วแผ่นแป้ง ใส่แฮม เห็ด Anchovy มอสซาเรลลา โรยหน้าด้วย ออริกาโน แล้วอบเตาที่ 220 องศา จนเหลืองประมาณ 15 นาที

หอยทอด

Author: Food Page // Category:

ส่วนผสม สำหรับ 3 ที่

หอยแมลงภู่ 3/4 ถ้วย

ถั่วงอก 1 1/2 ถ้วย

ซีอิ้วขาว 1/2 ช้อนชา

กระเทียมสับ 1 ช้อนชา

ไข่ไก่ 3 ฟอง

ต้นหอม ผักชี ซอยละเอียด 2 ชต.

แป้งมัน 6 ชต.

แป้งข้าวเจ้า 2 ชต.

น้ำโซดา 125 มล. (ถ้าไม่มีน้ำโซดาก็ใช้น้ำสะอาด 125 มล. แล้วเติมผงฟูไปสัก 1/4 ชช. ก็ได้ค่ะ)

เกลือ 1/4 ช้อนชา

พริกไทย 1/4 ช้อนชา

น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ

1. เริ่มทำโดยการผสมแป้งมันกับแป้งข้าวเจ้า ใส่พริกไทย เกลือ และน้ำโซดาคนให้เข้ากันดี แล้วนำไปแช่ช่องแข็งไว้ก่อน ระหว่างนั้นก็นำ หอยแมลงภู่ มาล้างให้สะอาด สะเด็ดน้ำทิ้งไว้ ไข่ก็ตีหยาบๆ ไว้ค่ะ ถั่วงอกก็ล้างให้สะอาด เด็ดหัวกับหาง แต่เราใจดีปล่อยใ้ห้หัวถั่วงอกติด กับบ่าอยู่ค่ะ อิอิ ส่วนผักชี กับต้นหอมก็ซอยละเอียดเลยค่ะ

2. เมื่อเตรียมส่วนผสมเรียบร้อยก็เริ่มทำค่ะ นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันลงไป เร่งไฟแรงเลยค่ะ พอน้ำมันร้อน ตักเกือบๆ 1/3 ของส่วนผสมแป้ง ราดลงบนกระทะ เกลี่ยให้เป็นแผ่นทั่วก้นกระทะเลยค่ะ

3. จากนั้นก็โรยหอยแมลงภู่ให้ทั่วแผ่นแป้ง แล้วใส่ต้นหอมผักชีโรยให้ทั่ว ตามด้วย 1/3 ของไข่ที่เราตีไว้ พยายามเกลี่ยไข่ ให้ทั่วแผ่นแป้งค่ะ แล้วตักส่วนผสมแป้งสัก 1 ชต. ราดไข่อีกทีค่ะ

4. เมื่อแป้งด้านล่างมีสีเหลืองกรอบดีแล้วก็กลับด้าน ทอดให้กรอบเหมือนๆ กันทั้งสองด้าน

5. เจียวกระเทียมให้หอม แล้วใส่ถั่วงอกกับซีอิ้วขาวลงผัดพอผักสลด แล้วจึงตักถั่วงอกใส่จานที่จะใช้เสิร์ฟ แล้วตักหอยทอด วางไว้ข้างบน เสิร์ฟพร้อมกับซอสพริกผสม น้ำจิ้มไก่และน้ำต้มสุกเล็กน้อยค่ะ

โดนัท

Author: Food Page // Category:

ส่วนผสม สำหรับโดนัท 6-8 ชิ้น

1. ยีสต์แห้ง 1/2 ซอง (4 กรัม)

2. น้ำอุ่น 1 ชต.

3. ไข่แดง 1 ฟอง

4. นมอุ่น 6 ชต.

5. น้ำตาลทราย 2 ชต.

6. เกลือ 1/4 ชช.

7. เนยขาว 1 1/2 ชต.

8. แป้งอเนกประสงค์ 1 1/4 ถ.

9. ผิวมะนาว, กลิ่นวานิลา

วิธีทำ ถ้าใครนวดมือก็ทำตามนี้นะคะ

1. หมักยีสต์โดยแบ่งนมอุ่นมา 3 ชต. เทยีสต์ลงไปคนให้เข้ากัน ใส่น้ำตาลทราย 1 หยิบมือ แล้วพักไว้ในที่อุ่นประมาณ 10 นาที หรือจนกว่ายีสต์ จะขึ้นฟูดีค่ะ

2. เทแป้งใส่อ่างผสม ทำบ่อตรงกลาง เทน้ำอุ่นและนมอุ่นส่วนที่เหลือลงไป ใส่น้ำตาลทราย ไข่แดง กลิ่นวานิลา ผิวมะนาว และยีสต์ที่หมักจน ขึ้นฟูแล้วลงไปในบ่อแป้ง ใช้เครื่องตีมือถือหัวเกลียวตีส่วนผสมให้เข้ากันด้วยความเร็วต่ำ 2 นาที แล้วคลุมผ้าพักไว้ในที่อุ่นประมาณ 15 นาที ให้ ยีสต์ทำงานค่ะ

3. ใส่เนยและเกลือลงไปในอ่างแป้ง นวดจนแป้งเนียนมือดีและแป้งหลุดจากขอบอ่างได้ง่าย (ใช้เวลานวดประมาณ 15 นาที) แล้วรวบแป้งเป็นก้อน กลม คลุมผ้าพักไว้ในที่อุ่นอีกประมาณ 30 นาทีจนแป้งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขึ้นอยู่กับอากาศด้วยค่ะ ถ้าใครอยู่เมืองหนาว ยังไงก็นำอ่างแป้งไปวาง ไว้บนฮีตเตอร์ก็ได้ค่ะ แป้งจะได้ขึ้นเร็วๆ

4. เมื่อแป้งขึ้นดีแล้วก็นำมาคลึงให้ทั่วเพื่อไล่ลม แล้วจัดการคลึงแป้งเป็นแผ่นหนาประมาณ 1 ซม. แล้วใช้แก้วขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 ซม. ตัด ลงบนแผ่นแป้ง โดยพยายามตัดแป้งให้ติด ๆ กัน เพื่อให้ได้ปริมาณเยอะ ๆ เศษ ๆ แป้งที่เหลือก็จับมาคลึงแล้วตัดใหม่ หรือจะ ปั้นเป็นก้อนกลม แล้วกดให้แบน ใช้ฝาขวดพลาสติกตัดตรงกลางทำเป็นโดนัทมีรูก็ได้ค่ะ แป้งที่ตัดได้ให้วางไว้บนผ้าสะอาดที่โรยแป้ง ไว้แล้ว ใช้พลาสติกใสและผ้า คลุมแป้งไว้ด้วยนะคะ พักแป้งอีกประมาณ 30 นาทีค่ะ

5. พอเห็นว่าแป้งขึ้น ผิวหน้าเรียบตึงดีแล้ว นำเนยขาวมาละลายเตรียมตัวลุ้นระทึกกับการทอดได้แล้วค่ะ ใส่เนยขาวลงไปใน หม้อสำหรับ ทอด น้ำมันควรใช้เยอะหน่อยนะคะ ให้สูงจากก้นหม้ออย่างน้อย 2 ซม. ค่ะ ใช้หม้อใบเล็กๆ ก็พอค่ะ จะได้ไม่เปลืองน้ำมัน เพราะเราจะทอด แค่ครั้งละ อันเท่านั้น นำหม้อตั้งไฟกลาง พอเนยละลายหมดก็ลดไฟลงเหลือ ไฟกลางค่อนข้างอ่อนค่ะ จากนั้นนำเจ้าลูกเล็กๆ เศษของแป้งส่วนที่เหลือ นำไปทอดทดสอบน้ำมันดูค่ะ ถ้านำแป้งลงทอดแล้วน้ำมันฟู่รอบๆ แป้ง ผิวโดนัทไม่เข้มเร็วจนเกินไปแสดงว่าใช้ได้ค่ะ เวลาที่ใช้ทอดโดนัทในแต่ละ ด้านประมาณ 1 นาทีนะคะ ถ้าใช้ไฟอ่อนเกินไปก็จะอมน้ำมัน ถ้าไฟแรงเกินผิวข้างนอกจะไหม้ แต่ข้างในจะไม่สุกค่ะ


ส่วนผสมท็อปปิ้ง

1. สีขาว ละลายเนยสดและนมรวมกันในไมโครเวฟ แล้วใส่น้ำตาลไอซิ่งและกลิ่นวานิลาลงไป คนให้เนียนและน้ำตาลละลายหมดค่ะ- น้ำตาลไอซิ่ง 1/2 ถ. - เนยสด 1 1/2 ชต.- นม 2 ชต.- กลิ่นวานิลลา 1/4 ชช.

2. สีชมพู ส่วนผสมเหมือนข้อ 1. แต่ตัดเนยสดออกไป และใส่น้ำหวานสีแดงลงไปประมาณ 1 ชช. คนให้เข้ากันค่ะ

3. ช็อคโกแล็ต นำช็อคโกแล็ตผสมกับเนยสดเล็กน้อยไปละลายในไมโครเวฟ นำหน้าโดนัทที่ทอดแล้วไปชุบแล้วโรยด้วยถั่วที่อบจนหอมแล้วค่ะ

ปลาหมึกผัดน้ำพริกเผา

Author: Food Page // Category:

เครื่องปรุงโดยประมาณ สำหรับรับประทาน 2 คน
1.ปลาหมึกไข่ 5 ตัว
2.เห็ดฟาง 5 ดอก
3.ต้นหอม 2 ต้น
4.หอมหัวใหญ่ 1 หัว
5.กระเทียมกลีบใหญ่ 1 กลีบ
6.พริกชี้ฟ้าแดง 4-5 เม็ด
7.น้ำพริกเผา 1 1/2 ชต.
8.น้ำปลา 1 ชต.
9.น้ำมันหอย 1 ชต.
10.น้ำมันพืช 2 ชต.
11.น้ำซุป 2-3 ชต.
12.น้ำตาลทราย 1/4 ชช.

วิธีทำ
1.นำปลาหมึกมาลอกเยื่อออกให้หมด ล้างให้สะอาดแล้วบั้งเป็นตาราง เห็ดฟางล้างให้สะอาดแล้วผ่าครึ่ง ต้นหอมลอกเปลือกนอกออก ล้าง แล้วหั่นท่อน หอมหัวใหญ่ปอกเปลือกแล้วหั่นเต๋าใหญ่หน่อย กระเทียมปอกเปลือกแข็งออกแล้วบุบหรือหั่นบางๆ พริกชี้ฟ้าก็หั่นเฉียงหรือ หั่นท่อนก็ได้ค่ะ ส่วนน้ำพริกเผา น้ำปลา และน้ำมันหอยใส่รวมกันไว้ในถ้วยเดียวกันนะคะ
2.นำกระทะตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมลงเจียวพอเหลือง ใส่ส่วนผสมน้ำพริกเผา ผัดพอ น้ำพริกเผาไม่จับกันเป็น ก้อน เติมน้ำซุป เร่งไฟแรงแล้วใส่ปลาหมึก หอมหัวใหญ่ และพริกชี้ฟ้าแดง ผัดพอปลาหมึกสุกและงอเข้าหากัน ชิมรสตามชอบ สุดท้าย ใส่ต้นหอมคน 2-3 ครั้ง ปิดไฟ ตักใส่จาน เสิร์ฟร้อนๆ ค่ะ

สลัดกุ้งทอดพริกไทยดำ

Author: Food Page // Category:

ส่วนผสมสำหรับ 2 ที่

1. กุ้งสดตัวขนาดกลางปอกเปลือกผ่าหลัง 200 กรัม

2. ซอสหอยนางรมตราแม็กกี้ 1 ช้อนโต๊ะ

3. ซอสปรุงอาหารตราแม็กกี้ 1 ช้อนโต๊ะ

4. น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

5. พริกไทยดำบุบพอแตก 1 ช้อนชา

6. โยเกิร์ตผสมทรอปิคคอลฟรุตตราเนสท์เล่ 1 ถ้วย

7. ผักสลัดต่างๆตามชอบ
วิธีทำ

1. ใส่น้ำมันพืชลงกระทะตามด้วย กุ้งสด ลงไปผัดพอเริ่มสุกปรุงรสด้วย ซอสหอยนางรมตราแม็กกี้ ซอสปรุงอาหารตราแม็กกี้ ผัดพอเข้ากัน ชิมรสตามชอบ

2. ใส่พริกไทยดำผัดพอเข้ากัน พร้อมจัดรับประทานกับผักสลัด และราดด้วย โยเกิร์ตผสมทรอปิคคอลฟรุต ตราเนสท์เล่ คลุกเคล้าพอเข้ากันตามชอบ
ขั้นตอนการทำ

1. ผัดกุ้งในกระทะปรุงรสด้วยซอสปรุงอาหารตราแม็กกี้และซอสหอยนางรมตราแม็กกี้ และพริกไทยดำผัดพอกุ้งสุก

2. นำกุ้งที่ผัดแล้วจัดลงในชามสลัด

3.ราดด้วยโยเกิร์ตผสมทรอปิคคอลฟรุต ตราเนสท์เล่พร้อมรับประทาน

สเต็กปลาแซลมอน

Author: Food Page // Category:

ส่วนผสม
1.ปลาแซลมอน 2 ชิ้น 400 กรัม
2.เนยละลาย 1/3 ถ้วย
3.วู้สเตอร์ซอส 1 ช้อนชา
4.แป้งสาลี
5.พริกไทย
6.หัวหอมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
7.ปาปริก้า 1/2 ช้อนชา
8.น้ำสต็อค 1/2 ถ้วย
9.เกลือ ผักต้มต่างๆ เช่น แครอท ถั่วแขก ถั่วลันเตา มันฝรั่ง มะเขือเทศ
วิธีทำ
1.ล้างปลาแล้วผึ่งไว้
2.ผสมเนย เกลือ วู้สเตอร์ซอส หัวหอมสับ ปาปริก้า คนให้เข้ากัน ทาบนตัวปลา นำเข้าเตาอบ ไฟ 200 องศาเซลเซียส 20 นาที หมั่นทาน้ำที่ผสมไว้จนดูเหลือง
3.เสิร์ฟพร้อมกับน้ำเกรวี่มันฝรั่งบด ผักต้ม ผักสดต่างๆ
น้ำเกรวี่ ผัดเนยกับหัวหอมใส่น้ำสต็อค เกลือ พริกไทย แป้งสาลี คนพอข้น ราดบนตัวปลา

เบอร์เกอร์ทูน่า

Author: Food Page // Category:

ส่วนผสม
1. ปลาทูน่าในน้ำมันพืชชนิดไขมันต่ำ
2. ขนมปังเบอร์เกอร์
3. ถั่วแระญี่ปุ่นแกะเป็นเม็ด
4. ข้าวโพดแกะเป็นเม็ด
5. เกลือ
6. พริกไทย
7. เนยชนิดเค็ม
8. ผักกาดแก้ว
9. หัวหอมใหญ่หั่นเป็นแว่น
10. มะเขือเทศหั่นเป็นแว่น
11.ซอสมะเขือเทศ และมายองเนส
วิธีทำ
1. นำปลาทูน่าในน้ำมันพืชมายีให้ละเอียด จากนั้นใส่ข้าวโพด และถั่วแระญี่ปุ่นที่เตรียมไว้ลงไป คลุกให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยพริกไทย และเกลือเล็กน้อย
2. จากนั้นนำปลาทูน่ามาอัดเป็นแผ่นกลมๆ นำไปแช่ตู้เย็นช่องแข็งประมาณ 10 นาที
3. ตั้งกระทะใส่เนยชนิดเค็มลงไป จากนั้นนำปลาทูน่าที่แช่แข็งไว้ลงไปทอดให้เหลืองพอสุก ตักขึ้นพักไว้
4. เมื่อทอดปลาทูน่าจนหมดแล้ว ล้างกระทะใหม่อีกครั้ง เพื่อทำการอุ่นขนมปัง
5. ตั้งกระทะ ใส่เนยชนิดเค็มลงไปเล็กน้อย เมื่อเนยเริ่มละลาย นำขนมปังเบอร์เกอร์ที่เตรียมไว้ใส่ลงไป เมื่อขนมปังเริ่มร้อนก็นำรีบนำขึ้น
6. การจัดเสิร์ฟ นำผักที่เตรียมไว้อย่างผักกาดแก้ว หัวหอมใหญ่ และมะเขือเทศ วางลงไปบนขนมปังด้านหนึ่ง จากนั้นวางปลาทูน่าตามลงไป ก่อนราดด้วยซอสมะเขือเทศ และมายองเนส ปิดทับด้วยขนมปังอีกส่วน เป็นอันพร้อมเสิร์ฟ
หากดูดีๆแล้ว เบอร์เกอร์ชิ้นนี้ไม่ใช่เป็นอาหารขยะ หรือ อาหารฟาสฟู้ด อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่พร้อมไปด้วยคุณค่าทางอาหารครบทั้ง 5 หมู่ ที่เหมาะสำหรับทุกวัย

ขนมจีบหมู

Author: Food Page // Category:

ส่วนผสม
1.แผ่นเกี๊ยว 20 แผ่น
2.เนื้อหมูบดละเอียด 200 กรัม
3.กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
4.พริกไทย 1 ช้อนชา
5.รากผักชี 1 ช้อนชา
6.ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
7.ซอสแม็กกี้ 1 ช้อนโต๊ะ
8.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
9.ผักชีเด็ดเป็นใบ 20 ใบ
10.พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเป็นเส้น 1 เม็ด
วิธีทำ
1.นำรากผักชี พริกไทย กระเทียม โขลกรวมกันให้ละเอียด
2.นำเนื้อหมูผสมกับเครื่องที่โขลก ผสมให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว ซอสแม็กกี้ น้ำตาลทรายให้เข้ากัน
3.นำแผ่นเกี๊ยวห่อส่วนผสมของเนื้อหมู นำใส่ถ้วยตะไลเล็ก ตกแต่งปากถ้วยด้วยกรรไกรให้เรียบร้อย วางใบผักชีและพริกชี้ฟ้า
4.นำขนมจีบเรียงใส่หม้อซึ้ง นึ่งไฟปานกลางประมาณ 15–20 นาที ยกลงกินคู่กับน้ำจิ้ม
ส่วนผสมน้ำจิ้ม
1.ซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
2.ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
3.น้ำส้ม 2 ช้อนโต๊ะ
4.น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำส่วนผสมทุกอย่างรวมกัน ตั้งไฟ พอเดือดยกลง
Tip : เวลานึ่งขนมจีบ ให้พรมน้ำก่อน เพื่อไม่ให้ขนมจีบแข็งกระด้าง

เต้าหู้ทองไส้กุ้ง

Author: Food Page // Category:

สวนผสม
1.กุ้งสับละเอียด 200 กรัม
2.มันหมูหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ
3.น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
4.เกลือป่น 3/4 ช้อนชา
5.น้ำมันงา 1/2 ช้อนชา
6.ไข่ขาว 1 ฟอง
7.แป้งข้าวโพด 2 ช้อนชา
8.เต้าหู้เย็นตาโฟ 10 ชิ้น
วิธีทำ
1.นำส่วนผสมของกุ้งและมันหมูผสมรวมกัน ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงรส นวดให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 20 นาที
2.นำเนื้อกุ้งวางบนเนื้อเต้าหู้ นำใส่เข่งนึ่งประมาณ 5–7 นาที

เห็ดหอมสอดไส้

Author: Food Page // Category:

ส่วนผสม
1.กุ้งสับละเอียด 200 กรัม
2.มันหมูแข็งหั่นลูกเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ
3.น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
4.พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
5.เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
6.น้ำมันงา 1/2 ช้อนชา
7.แป้งข้าวโพด 2 ช้อนชา
8.เห็ดหอม 5 ดอก
วิธีทำ
1.น้ำเห็ดหอดตัดโคน แช่น้ำพอนิ่ม
2.ผสมเนื้อสัตว์หมักกับเครื่องปรุงรส นวดให้เข้ากัน แช่ตู้เย็นทิ้งไว้ ประมาณ 20 นาที นำมาพอกที่ด้านล่างของเห็ดหอม
3.นำเห็ดหอมใส่เข่ง นึ่งประมาณ 5–10 นาที

ก๋วยเตี๋ยวหลอด

Author: Food Page // Category:

ส่วนผสม
1.ก๋วยเตี๋ยวแผ่น 1 กิโลกรัม
2.เห็ดฟาง 3 ถ้วย
3.ถั่วงอก 1/2 กิโลกรัม
4.เห็ดหูหนู 1 ถ้วย
5.เต้าหู้ขาว 4 แผ่น
เครื่องปรุง
1.งาคั่วบด 4 ช้อนโต๊ะ
2.ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
3.พริกไทย 1 ช้อนชา
4.น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ
5.น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ
6.รากผักชี 5 ราก
7.กลือ 1 ช้อนชา
8.ผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ
9.ซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
10.หัวไชโป้วสับ 1 ถ้วย
วิธีทำ
1.โขลกรากผักชี งาขาวคั่ว พริกไทย ให้ละเอียด
2.เห็ดฟาง เห็ดหูหนู ตัดโคนล้างน้ำให้สะอาด หั่นชิ้นเล็ก หรือ ใช้สับหยาบๆ ก็ได้ เต้าหู้ขาวหั่นชิ้นยาว
3.รากผักชี งา พริกไทยที่โขลกไว้ นำลงไปผัดกับน้ำมันพืชในกระทะจนเหลือง ใส่ซีอิ้วดำ น้ำตาลปีบ ผงพะโล้ เกลือ ผัดจนหอมดีแล้ว จึงใส่เต้าหู้ขาว เห็ดฟาง เห็ดหูหนู ผัดให้เข้ากัน (อย่าให้มีน้ำมากจะทำให้ห่อยาก) ชิมรสตามต้องการ
4.ล้างถั่วงอกให้สะอาด ลวกน้ำร้อน จัดใส่จาน
5.ตักเครื่องที่ผัดวางลงบนแผ่นก๋วยเตี๋ยว พับหัวท้ายแล้วห่อม้วนให้มีลักษณะกลมยาว ขนาดเล็กใหญ่ตามตามใจชอบ แล้วนำไปนึ่งในรังถึงจนร้อน จัดใส่จาน ใช้ถั่วงอกรองก้นจาน (หรือจะใช้ผักสลัดก็ได้) ตัดเป็นชิ้นพอคำ ราดด้วยซีอิ้วดำ พริกส้ม โรยด้วยผักชี
วิธีทำน้ำซอสราด
ซีอิ้วดำที่ราด ผสมกับน้ำสุกเล็กน้อยเพื่อให้เจือจางใส่น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ พริกชี้ฟ้าแดง เหลือง และงาคั่วนำขึ้นตั้งไฟสักครู่พอสุกเพื่อไม่ให้้เหม็นเขียว ใส่เกลือเล็ก น้อยผสมน้ำส้มสำหรับใช้เป็นเครื่องปรุงรส

กระเพาะปลารสเด็ด

Author: Food Page // Category:

ส่วนผสม

1. กระเพาะปลาแห้งที่ผ่านการทอดแล้วประมาณ 100 กรัม

2. เนื้อไก่ ประมาณ 200 กรัม

3. เลือกไก่ 1 ก้อน

4. เห็ดหอม 5 ดอก

5. หน่อไม้ไผ่ตรง 300 กรัม

6. ซีอิ้วขาว 1/2 ถ้วยตวง

7. ซีอิ้วดำ 2 ช้อนโต๊ะ

8. พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ

9. แป้งข้าวโพด 1 ถ้วยตวง

10. น้ำซุปกระดูกไก่ 10 ถ้วยตวง
วิธีทำ

1. นำน้ำซุปใส่หม้อตั้งไหให้เดือด ใส่กระเพาะปลาต้มให้นุ่ม ใส่หน่อไม้ เห็ดหอม เลือดไก่ไข่นกกระทาต้มปอกเปลือก

2. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ พริกไทย

3. ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำ แล้วนำมาผสมลงในหม้อ รีบคนให้ทั่ว รอให้เดือดอีกครั้ง ยกลงตักใส่ชามโรยต้นหอมผักชี พริกไทย พริกดองน้ำส้ม

ไอศกรีมโยเกริต์มัลเบอรี่

Author: Food Page // Category:





สูตรไอศกรีมโยเกริต์มัลเบอรี่ค่ะ
◊ โยเกริต์รสธรรมชาติ ๑ ๑/๒ ถ้วยตวง
◊ วิปปิ้งครีม ๑/๒ ถ้วยตวง
◊ นมสด ๑ ๑/๒ ถ้วยตวง
◊ น้ำตาลทราย ๑/๒ ถ้วยตวง
◊ มัลเบอรี่ฟิลลิ่ง ๑ ๑/๒ ถ้วยตวง
◊ สีผสมอาหารสีม่วง ใส่นิดหน่อย
◊ สารให้ความคงตัว ๑/ ๔ กรัม
โยเกิร์ตที่ใช้ค่ะ เทออกมาให้ดู
วิธีทำ
นำนมต้มให้พอร้อน ใส่น้ำตาลลงไปคนให้น้ำตาลละลายจนหมด พักไว้ให้เย็น จากนั้นนำส่วนผสมที่เหลือมาคนให้เข้ากัน นำส่วนผสมที่ได้เก็บในตู้เย็นประมาณ ๔ ชั่วโมง แล้วจึงนำมาใส่ในเครื่องทำไอศกรีมค่ะ

แปลงรูปเป็นไอศกรีมด้วยเครื่องนี้แหละค่ะ นี่ทำเสร็จแล้วค่ะ เตรียมใส่กล่อง
ใส่กล่องแล้วค่ะ สลับด้วยลูกหม่อนค่ะ แล้วใส่ไอศกรีมจนเต็มกล่องค่ะ

กุ้งพันตะไคร้

Author: Food Page // Category:

ส่วนผสมสำหรับ 1–2 ที่
1.เนื้อกุ้งแกะ 200 กรัม
2.มันหมู 25 กรัม
3.เนื้อปลาขูด 150 กรัม
4.ไข่ไก่ 1 ฟอง
5.พริกไทย 1 ช้อนชา
6.น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
7.กระเทียมสับ 20 กรัม
8.ตะไคร้ตำอย่างละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
9.น้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนโต๊ะ
10.เกลือ 1/2 ช้อนชา
11.ต้นตะไคร้ 5–8 ต้น
12.น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
1.ปั่นเนื้อปลากับมันหมู จนกระทั่งเนียนเข้ากัน ใส่เนื้อกุ้งลงตีผสม แล้วใส่เครื่องปรุงทั้งหมดตีต่อจนเข้ากันอีกเครั้ง
2.ปั้นเป็นก้อนกลมแบนตามชอบ นำแท่งตะไคร้เสียบตรงกลาง นำไปนึ่งนสุก จากนั้นนำไปทอดอีกครั้งจนสุกเหลืองตามชอบ เสิร์ฟพร้อมผักสด เส้นหมี่ และผักดอง

กิมจิ

Author: Food Page // Category:

ส่วนผสม

ผักกาดขาว 2 หัว, เกลือป่น, น้ำเปล่า 20 ลิตร, พริกชี้ฟ้าแดง 100 กรัม, ขิงอ่อน 20 กรัม, กระเทียม 10 กรัม, ต้นหอม 100 กรัม, น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ

1. ล้างผักกาดขาวให้สะอาด ผ่าครึ่ง

2. ผสมน้ำเปล่า เกลือป่น 40 กรัม ให้เป็นน้ำเกลือ ชิมรสให้ออกเค็มเล็กน้อย

3. นำผักกาดขาวที่ผ่าครึ่งไว้มาแช่น้ำเกลือนานประมาณ 6 – 8 ชั่วโมงจนผักสลดจึงนำขึ้น

4. โขลกพริกชี้ฟ้าแดง กระเทียม ขิง ให้ละเอียด ปรุงรสด้วย เกลือป่น น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู

5. หั่นต้นหอมเป็นท่อนยาวประมาณ 1 นิ้ว และหั่นผักกาดขาวที่แช่น้ำเกลือไว้เป็นชิ้นพอคำ

6. ผสมต้นหอม ผักกาดขาวและน้ำที่ได้ในข้อที่ 4 หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 3 วัน
หมายเหตุ: หากเป็นสูตรต้นตำรับจะใช้วิธีการหมักที่นานขึ้นประมาณ 3 สัปดาห์และไม่ต้องใส่น้ำส้มสายชู และสามารถใส่ขิงอ่อนหั่นฝอยได้หากชอบ

ขนมกุยช่าย

Author: Food Page // Category:

ส่วนผสมรายการ จำนวนตามมาตราชั่ง จำนวนตามตำรับอาหาร

1. น้ำ(เปล่า) 1,440 กรัม 6 ถ้วย

2. น้ำมัน 240 กรัม 1 ถ้วย

3. แป้งข้าวเหนียว 220 กรัม 2 ถ้วย

4. แป้งข้าวเจ้า 880 กรัม 8 ถ้วย

5. แป้งท้าวหรือแป้งมัน 120 กรัม 1 ถ้วย

6. แป้งมัน (สำหรับนวด) 120 กรัม 1 ถ้วย

ไส้กุยช่าย

1. น้ำมัน 60 กรัม 1/4 ถ้วย

2. กระเทียมสับละเอียด 20 กรัม 2 ช้อนโต๊ะ

3. ใบกุยช่าย 1,000 กรัม 14 ½ ถ้วย

4. โซดาไบคาร์บอเนต 1.66 กรัม 1/2 ช้อนชา

5. น้ำตาลทราย 10 กรัม 1 ช้อนโต๊ะ

6. ซีอิ้วขาว 45 กรัม 1/4 ถ้วย

7. ซีอิ้วดำ 1.66 กรัม 1/2 ช้อนชา

น้ำจิ้ม

1. กระเทียม 35 กรัม 1/4 ถ้วย

2. พริกชี้ฟ้าแดงบดละเอียด 100 กรัม 5 เม็ด

3. น้ำส้มสายชู 120 กรัม 1/2 ถ้วย

4. น้ำตาลทราย 100 กรัม 1/2 ถ้วย

5. ซีอิ้วดำ 45 กรัม 1/4 ถ้วย

6. เกลือ 20 กรัม 2 ช้อนชา

*น้ำจิ้ม ผสมทุกอย่างรวมกัน แล้วนำไปปั่น*

วิธีทำ

1. ผสมน้ำ กับน้ำมัน ตั้งไฟให้เดือด

2. ใส่แป้งข้าวเจ้า 6 ถ้วย แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วย กวนให้กลิ้งจากกระทะ นวดกับแป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย และแป้งมัน 1 ถ้วย แบ่งแป้งที่นวดแล้ว ออกเป็นลุก ๆ ลูกละ 30 กรัม เสร็จแล้วใช้ผ้าขาวบางคลุมพักไว้ อย่าให้ถูกแดดและลม

3. ผัดไส้ ใส่กระเทียมเจียวให้เหลืองใส่ใบกุยช่าย ใส่ส่วนผสมทั้งหมดชิมรส ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ

4. แผ่แป้งที่แบ่งเป็นลูก ๆ จากข้อที่ 2 ออกเป็นเบ้าหรือถ้วยใส่ไส้จีบริมให้สวยงามนำไปนึ่ง 10 นาที

5. พรมกระเทียมเจียว (ใช้กระเทียมประมาณ 1/2 ถ้วย) รับประทานกับน้ำจิ้ม

ยำมะม่วงปลาดุกฟู

Author: Food Page // Category:

ส่วนผสม
ปลาดุกย่างรมควันขนาดใหญ่ 2 ตัว
มะม่วงดิบ (เปรี้ยว) 1 ลูกใหญ่
หอมแดง 5 หัว
น้ำมะนาว 6 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนู 12 เม็ด
น้ำมันพืช 2 ขวดใหญ่
วิธีทำ
แกะปลาดุกย่าง เอาแต่เนื้อ ยีให้เป็นฝอยเตรียมไว้
ทอดหัวปลาและหนังปลาดุกให้กรอบ ตักขึ้นใส่จานเตรียมไว้
ทอดเนื้อปลาดุกที่ยีเตรียมไว้ ในน้ำมันพืชที่ค่อนข้างร้อนจัด ทอดจนกรอบฟูได้ที่แล้ว จัดลงจานหัวปลา
ปอกเปลือกและสับซอยมะม่วงดิบ ซอยหอมแดง พริกขี้หนูสดบุบพอแตก คลุกเคล้าส่วนนี้ให้เข้ากัน แล้วนำไปโรยบนเนื้อปลาดุกฟูในจาน
ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว ปรุงรสตามชอบ นำไปราดบนจานเนื้อปลาดุกฟู เสิร์ฟทันที

ซาลาเปาฮ่องเต้

Author: Food Page // Category:

ส่วนผสมแป้งรายการ จำนวนตามมาตราชั่ง จำนวนตามตำรับอาหาร

1. แป้งอเนกประสงค์ 1,000 กรัม 10 ถ้วย

2. ผงฟู 20 กรัม 2 ช้อนโต๊ะ

3. เกลือ 3.3 กรัม 1 ช้อนชา

4. เอส พี 20 กรัม 4 ช้อนชา

5. น้ำตาลทราย 200 กรัม 1 ถ้วย

6. ยีสต์ 26.6 กรัม 2 ช้อนโต๊ะ + 2 ช้อนชา

7. น้ำ (เปล่า) 500 กรัม 2 ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ

8. เนยขาว 120 กรัม 1/2 ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ

ไส้หมูสับ

1. เนื้อหมูบด 1,000 กรัม 4 ถ้วย

2. หอมหัวใหญ่ 180 กรัม 1 ถ้วย

3. ซอสปรุงรส 30 กรัม 3 ช้อนโต๊ะ

4. แป้งข้าวโพด 40 กรัม 4 ช้อนโต๊ะ

5. พริกไทย 15 กรัม 1 ½ ช้อนโต๊ะ

6. ซีอิ้วขาว 50 กรัม 5 ช้อนโต๊ะ

7. น้ำตาลทราย 50 กรัม 5 ช้อนโต๊ะ

8. ไข่ไก่ 100 กรัม 2 ฟอง

9. เกลือ 6.6 กรัม 2 ช้อนชา

10. รากผักชี กระเทียม พริกไทย 50 กรัม 2 ช้อนโต๊ะ

11. ต้นหอม ผักชี 20 กรัม 2 ต้น

12. กุนเชียง 170 กรัม 1 คู่

13. ไส้กรอก 250 กรัม 6 แท่ง

วิธีทำ
1. ร่อนแป้ง ผงฟู ใส่ยีสต์

2. ละลายน้ำ เกลือ น้ำตาลทราย เทใส่ในแป้ง ใส่ เอส พี เนยขาว นวดจนเนียนพักไว้ 20 นาที

3. ผสมหมูบดกับส่วนผสมต่าง ๆ นวดให้เนียน ชั่งก้อนละ 20 กรัม

4. ชั่งแป้งก้อนละ 50 กรัม วางบนกระดาษ พัก 15 – 20 นาที ผ่ากลาง วางหมูสับ ตกแต่งด้วยไส้กรอก และกุนเชียงให้สวยงาม พักไว้ประมาณ 30 – 40 นาที นึ่งไฟแรง ๆ 30 นาที

หมูย่าง

Author: Food Page // Category:

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

* เนื้อหมู 450 กรัม (หั่นเป็นชิ้นยาว และบาง)
* น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
* เกลือ 1 ช้อนชา
* กระเทียมบดละเอียด 3 กลีบ
* นมจืด 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
* ไม้สำหรับเสียบหมูย่าง 1 ถุง

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. นำหมูไปหมักกับส่วนผสมทั้งหมดและทิ้งไว้ประมาณ 2-6 ชั่วโมง (ยิ่งทิ้งไว้นาน หมูจะยิ่งนุ่ม และหอม).
2. เมื่อหมักแล้ว นำเนื้อหมูไปเสียบไม้ และนำไปย่างบนไฟปานกลาง ขณะย่าง นำน้ำหมักหมูไปทาที่หมูเพื่อให้มีกลิฺ่ิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิ่นหอมและรสชาติมากยิ่งขึ้น
3. เมื่อย่างเสร็จ เสิรฟพร้ิิิอมกับผักสดต่างๆ, แตงกวาหั่น, มะเขือเทศและข้าวเหนียว

ต้มยำกุ้ง

Author: Food Page // Category:

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

* กุ้งขนาดกลาง 12 ตัว (ปอกเปลือก, ทำความสะอาด)
* เห็ดฟาง 10 อัน
* ตะไคร้ 1 กำ
(ทุบให้แหลกและหั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 2")
* ใบมะกรูด 3 ใบ
* เกลือ 1 ช้อนชา
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
* พริกขี้หนู 6 เม็ด (ทุบพอให้แหลก)
* น้ำสะอาด 4 ถ้วยตวง
* ผักชี 1/2 ถ้วยตวง (หั่นหยาบ)

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ปอกเปลือกกุ้งออก เหลือหางไว้ (เพื่อความสวยงามเมื่อปรุงเสร็จ) จากนั้นหั่นด้านหลังกุ้งเพื่อเอาเส้นเลือดสีดำออก เสร็จแล้วนำเห็ดฟางไปล้างให้สะอาด หั่นเป็น 4 ส่วนและนำไปผึ่งให้แห้ง
2. นำน้ำเปล่าไปต้มในหม้อ จากนั้นใส่ตะไคร้, ใบมะกรูด และกุ้ง เมื่อสีกุ้งเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู (เริ่มสุก) ใส่เห็ดที่หั่นไว้แล้วและเกลือ
3. หลังจากน้ำเดือดแล้วปิดไฟ และ้นำหม้อออกมาจากเตา ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำมะนาว และพริกขี้หนู เมื่อปรุงรสเสร็จตักเสิรฟในถ้วย ตกแต่งด้วยผักชีและเสิรฟทันที พร้อมด้วยข้าวสวยร้อนๆ

หอยจ้อ

Author: Food Page // Category:



เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* ปูม้า 3 ตัว (นึ่งจนสุกแล้วแกะเอาแต่เนื้อ)
* หมูสับ 200 กรัม
* ฟองเต้าหู้แผ่นใหญ่ (ปริมาณแล้วแต่ขนาดที่จะห่อ)่
* มันหมูหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 ถ้วยตวง
* ไข่เป็ด 2 ฟอง
* แป้งสาลี 3 ช้อนโต๊ะ
* รากผักชี 3 ราก
* กระเทียม 1/2 ถ้วยตวง
* พริกไทย 20 เม็ด
* เกลือ 1 ช้อนชา
* ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
* ต้นหอม+ผักชีซอย 1/2 ถ้วยตวง
* เหล้าจีนหรือวิสกี้ 2 ช้อนโต๊ะ
* แตงกวา+มะเขือเทศ(เสริฟเป็นเครื่องเคียง) และน้ำจิ้มบ๊วย
* น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำทีละขั้นตอน

1. โขลกกระเทียม, รากผักชี, เกลือและพริกไทยเข้าด้วยกันจนละเอียด ในชามขนาดใหญ่ ใส่ส่วนผสมที่โขลกเตรียมไว้ลงไปผสมกับเนื้อปู, หมูสับ, มันหมู, แป้งสาลี, ไข่เป็ด, น้ำตาล, ซิอิ๊วขาว, เหล้า, ต้นหอมและผักชี นวดจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี
2. นำฟองเต้าหู้ไปแช่น้ำให้นิ่ม จากนั้นจึงนำมาแผ่ขยาย ตัดให้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้างประมาณ 5 นิ้ว
3. ตักส่วนผสมที่นวดจนเข้ากันดีแล้วในข้อหนึ่งไปวางบนฟองเต้าหู้ ม้วนส่วนผสมด้วยฟองเต้าหู้ (คล้ายๆห่อโรตี) เสร็จแล้วมัดหัวและท้าย จากนั้นจึงมัดเป็นปล้องตรงกลางให้แน่น โดยแบ่งให้แต่ละปล้องหนาประมาณ 1 - 1.5 นิ้ว
4. นำไปนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 10 นาทีหรือจนสุกดี จากนั้นจึงนำมาตัดออกเป็นท่อนตามปล้องที่มัดไว้
5. นำหอยจ้อที่ตัดออกเป็นท่อนไปทอดในน้ำมันร้อนจัด (ใส่น้ำมันให้ท่วม) ทอดสักพักจนเหลืองกรอบจึงตัก ขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานกับแตงกวาและมะเขือเทศหั่น เสริฟพร้อมน้ำจิ้มเป็นของท่านเล่นหรือกับข้าวก็ดี

วุ้นผลไม้สด

Author: Food Page // Category:

สูตร

น้ำสะอาด 4 ถ้วย
ผงวุ้น 1 ชต.
น้ำตาลทรายขาว 1 1/2 ถ้วย ( หวานไปลดน้ำตาลลงนะคะ หวานน้อยก็เพิ่มเอาค่ะ)
ผลไม้ตามชอบ

วิธีทำ

ค่ะผสมน้ำกับผงวุ้นให้เข้ากัน นำไปตั้งไฟจนเดือด เติมน้ำตาลทรายลงไป คนต่อให้น้ำตาลทรายละลายแค่นี้ก็เสร็จแล้วค่ะ ใครจะเติมสีแต่งกลิ่น ตามสะดวกเลยค่ะ แก้มใส่สีแดงกับกลิ่นสตรอเบอร์รี่ลงไปค่ะ ตักใส่พิมพ์ตามต้องการ ใส่ผลไม้ที่ชอบลงไปจัดให้สวยน่ารับประทานค่ะ อร่อยง่ายๆ ไม่ยากเลยค่ะ

บลูเบอร์รี่ซอเบต

Author: Food Page // Category:










สูตร
บลูเบอร์รี่ 300 กรัม
น้ำตาลทราย 100 กรัม
น้ำสะอาด 70 กรัม
เลม่อน 1 ลูก
ไข่ขาว 30 กรัม

วิธีทำ

นำบลู+น้ำตาลทราย+น้ำสะอาด+น้ำเลม่อน 1 ลูก ขึ้นตั้งไฟให้เดือด เคี่ยวจนบลูนิ่ม
เสร็จแล้วกรอง พักไว้ให้เย็น ตีไข่ขาวจนตั้งยอดอ่อน แล้วนำมาโฟล์ดรวมกันเทใส่เครือ่งปั่นไอศครีมได้เลยจ้ะปั่นจนฟูได้ที่ ใช้พายยางตักใส่กล่องแช่ฟรีส 2-3 ชม. ก่อนเสริฟค่ะ

สตอเบอรี่ครีมสด

Author: Food Page // Category:










ส่วนผสม

สตรอเบอรี่สดตัดคั่ว หั่นเป็นชิ้น 250 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 30 กร้ม
ริคอตตาชีส 250 กรัม
ดับเบิ้ลครีม 155 กรัม
เจลาตินผง 2 ช้อนชา
น้ำสดคั้นสด 60 มิลลิลิตร
ขั้นตอนการทำ

1. นำสตอเบอรี่ น้ำตาลไอซิ่ง ริคอตตาชีส ใส่เครื่องปั่นน้ำผลไม้หรือเครื่องบดปั่น ปั่นให้ละเอียดเนียนจนเข้ากันดี
2. ละลายเจลาตินผงในน้ำส้ม นำลงไปผสมกับ 1 และปั่นให้เข้ากัน
3. ทาน้ำมันบางๆ ลงในพิมพ์ (สูตรนี้จะใส่ได้ 4 พิมพ์) แล้วก็ใช้ผ้าขาวบางกรุพิมพ์ให้รอบ ใส่ส่วนผสม 2 ลงในพิมพ์ นำไปแช่ตู้เย็นจนเซทตัว แล้วคว่ำลงจาน นำผ้าขาวบางออก
4. ตกแต่งด้วยสตรอเบอรี่ หรือราสเบอรี่ และโรยน้ำตาลไอซิ่งให้ดูน่ากิน

Recommend

เพื่อให้เข้ากับวันวาเลนไทน์ให้ใช้พิมพ์รูปหัวใจ ตกแต่งด้วยช็อกโลแลตรูปหัวใจ แยมสตอเบอรี่ เพื่อแสดงถึงความรัก หรือแสดงถึงความขอบคุณในวันวาเลนไทน์

พอร์คชอพซอสผักรวม

Author: Food Page // Category:

การเตรียมพอร์คชอพ


พอร์คชอพ (ทุบด้วยฆ้อนทุบเนื้อ) 2 ชิ้น

ผงปรุงรสไก่ ผงกระเทียม พริกไทยป่นและเกลือเล็กน้อย

วิสกี้ไทย

น้ำมันสำหรับทอดและผัด


ส่วนผสมซอสผักรวม


หอมใหญ่หั่นหยาบ 4 ช้อนโต๊ะ

แป้งสาลีเอนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ

ถั่วลันเตา 50 กรัม

แครอทหั่นชิ้นเล็กต้มสุก 50 กรัม

ข้าวโพดอ่อนต้มสุก 50 กรัม

วิปปิ้งครีม 1 ถ้วยตวง

เกลือป่น และผงปรุงรสไก่เล็กน้อย

น้ำมันสำหรับผัด

ใบเบย์ 1 ใบ


ส่วนผสมมันบด


มันฝรั่งต้มสุกบดละเอียด 200 กรัม

เนยสด 1 ช้อนโต๊ะ

นมข้นจืด 4 ช้อนโต๊ะ

เกลือป่นเล็กน้อย


วิธีทำ


- ทาพอร์คชอพด้วยผงกระเทียม ผงปรุงไก่ พริกไทย และเกลือป่น

- ทอดพอร์คชอพในน้ำมันจนสุกเหลืองทั้ง 2 ด้าน ก่อนนำชิ้นพอร์คชอพขึ้นจากกระทะ ให้เหยาะวิสกี้เล็กน้อยจัดลงบนจานวิธีการปรุงมันบด
- ผสมส่วนผสมมันบดขณะร้อนๆ กับเครื่องปรุงทั้งหมดเตรียมไว้ จัดลงจาน

- ผัดหอมใหญ่และใบเบย์ กับน้ำมันจนหอม ใส่แป้งสาลีเอนกประสงค์ลงผัดค่อยๆ เติมวิปปิ้งครีมปรุงรสด้วย เกลือป่น และผงปรุงไก่ ผัดส่วนผสมจนเดือดทั่วดี ใสผักรวม

- ตักซอสผักรวมราดลงบนพอร์คชอพ รับประทานคู่กัยมันบดผักอบ

ปลาทรงเครื่องชุบแป้งทอด

Author: Food Page // Category:

สิ่งที่ต้องเตรียม
เนื้อปลากระพงสับ 200 กรัม

เนื้อกุ้งสับ 150 กรัม

ไข่ไก่ตี 1 ฟอง

มันต้มบดละเอียด 100 กรัม

เนย 4 ช้อนโต๊ะ

แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ

นมสด 1 ถ้วย

น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ

ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ

ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

เกล็ดขนมปัง 1 ถ้วย

น้ำมันพืชสำหรับทอด


วิธีทำ


- ตีส่วนผสมเนื้อปลา เนื้อกุ้ง มันบด เนย แป้งสาลี นมสด น้ำตาล ซอสปรุงรส ซีอิ้วขาว เข้าด้วยกันจนเป็นเนื้อเดียวกัน

- เมื่อส่วนผสมเข้าที่แล้ว นำมาปั้นเป็นก้อนให้พอคำ กดให้เป็นแผ่น

- จากนั้นนำไปชุบกับไข่ไก่และเกล็ดขนมปังให้ทั่ว

- ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชสำหรับทอดลงไปค่อนข้างมากนิดนึง ตั้งไฟกลาง ทอดจนสุกกรอบ

- ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานเสิรฟพร้อมซอสตามชอบได้เลยค่ะ

ยำปลาหมึก

Author: Food Page // Category:



ส่วนผสม


ปลาหมึกสด 300 กรัม ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน 2 ต้น

แครอทหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ

ผักกาดหอมเด็ดใบ 2 ต้น

หอมใหญ่ซอย 1 หัว

พริกขี้หนูบุบ 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำมะนาว 1 1/2ช้อนโต๊ะ

น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ


- นำปลาหมึกมาลอกเยื่อดำ ๆ ออก ล้างให้สะอาดใช้มีดบั้งให้เป็นลวดลาย หั่นเป็นชิ้น แล้วคลุกเคล้ากับแป้งมันสำปะหลังให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที

- จากนั้นนำปลาหมึกไปล้างน้ำเปล่าเอาแป้งมันออก จึงนำไปลวกในน้ำเดือดจัด ให้พอสุก ตักใส่ตะแกรง ผึ่งทิ้งไว้ให้น้ำแห้ง นี่เป็นเทคนิคการทำให้ปลาหมึกกรอบอร่อยและไม่เหม็นคาวอีกด้วย

- เตรียมน้ำยำ โดยผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล เป็นน้ำยำ คลุกกับปลาหมึก ใส่พริกขี้หนูบุบ หัวหอมซอย แครอท ขึ้นฉ่ายลงเคล้าให้เข้ากันดี จัดใส่จานที่รองด้วยผักกาดหอมรีบเสิรฟทันทีอย่าทิ้งไว้นานเดี๋ยวเนื้อปลาหมึกจะดูดน้ำยำทำให้รสชาติจะเปลี่ยนจืดชืดไม่อร่อย

เทมปุระกุ้ง

Author: Food Page // Category:

เครื่องปรุง


>กุ้งตัวใหญ่ 12 ตัว

>ไข่ไก่ 1ฟอง

>แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วย

>น้ำเย็น 1/2 ถ้วย

>น้ำมันพืชสำหรับทอด


วิธีทำ


1. ปอกเปลือกกุ้ง ล้างน้ำให้สะอาด

2. เทแป้งอเนกประสงค์ในชาม และเทน้ำเย็นลงไปให้ท่วมแป้ง หลังจากนั้นตอกไข่ใส่ลงไป

3. คนให้ส่วนผสมของแป้งเข้ากันอย่างช้าๆ

4. ตั้งกระทะให้น้ำมันร้อนจัด

5. ชุบกุ้งในแป้งที่เตรียมไว้แล้วลงทอดจนเหลือง

ทาโกยากิ ( ขนมครกญี่ปุ่น )

Author: Food Page // Category:

ส่วนผสม


แป้งสาลีร่อน 1 ถ้วย

ผงฟู 1/4 ช้อนชา

ไข่ผสมน้ำซุป 1 ถ้วย

หนวดปลาหมึก 100 กรัม

ชีสทำพิซซ่า 4 ช้อนโต๊ะ

ต้นหอม 1/3 กรัม

ถั่วทอด 1/3 ถ้วย

ขิงดอง เล็กน้อยตามชอบ

ปลาแห้งป่น เล็กน้อยตามชอบ

สาหร่ายสีเขียว เล็กน้อยตามชอบ

ซอสสำหรับจิ้มอาหารทอด ตามต้องการ

น้ำมันสลัด ตามต้องการ


ขั้นตอนการทำ


1. ทำแป้ง


* นำไข่ผสมน้ำซุปใส่ลงในส่วนผสมของแป้งสาลีร่อนกับผงฟูแล้วคนให้เข้ากัน


2. เตรียมใส้


* หั่นหนวดปลาหมึกให้เป็นลูกเต๋าใหญ่ประมาณ 2 ซม. และซอยต้นหอมเตรียมไว้

ผสมกับชีสทำพิซซ่า ถั่วทอด และ ขิงดอง


3. ทอด


* อุ่นเตาขนมทาโกยากิให้ร้อน ทาน้ำมันสลัดบางๆ จากนั้นใส่แป้งและใส้ลงไป

เมื่อฝาขนมทั้งสองด้านติดเข้าด้วยกันแล้ว ให้ตักออกจากพิมพ์


โรยหน้าด้วย สาหร่ายสีเขียว ปลาแห้งป่น รับประทานคู่กับซอสสหรับอาหารทอด

คุกกี้ขนุน (Jackfruit Cookies)

Author: Food Page // Category:

สิ่งที่ต้องเตรียม


แป้งสาลีชนิดพิเศษ 350 กรัม

แป้งข้าวโพด 10 กรัม

เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา

เกลือป่น 1 ช้อนชา

วาลิลลาชนิดผง 1 ช้อนชา

วิปปิ้งครีมผง 50 กรัม

มะพร้าวขาวอบแห้ง 50 กรัม

ช็อกโกแลตชิพ 50 กรัม

เนื้อขนุนสดซอย 150 กรัม

มาร์การีน 250 กรัม

น้ำตาลทราย 150 กรัม

ไข่ไก่ 1 ฟอง

ถาดสำหรับอบ(ทาเนยขาว)

ช็อกโกแลตชิพสำหรับแต่ง


วิธีทำ


* ร่อนแป้งสาลีชนิดพิเศษกับแป้งข้าวโพด เบคกิ้งโซดา เกลือป่น วานิลลาชนิดผงและวิปปิ้งครีมผง

เติมมะพร้าวขาวอบแห้ง ช็อกโกแลตชิพและขนุนสด ใช้พายยางเค้าส่วนผสมให้เข้ากันเตรียมไว้

* ตีผสมมาการ์รีนกับน้ำตาลทราย ด้วยหัวตีรูปใบไม้ ใช้วามเร็วต่ำจนส่วนผสมเข้ากัน เติมไข่ไก่ และ

ส่วนผสมแป้งที่เตรียมไว้ ตีผสมจนเข้ากันดี พักแป้งไว้นาน 15 นาที

* ใช้ที่ตักไอศกรีมตักส่วนผสมคุกกี้วางลงบนถาดที่เตรียมไว้ แต่งหน้าด้วยช็อกโกแลตชิพ นำเข้าเตา

อบที่อุณหภูมิ 400-420 องศาฟาเรนไฮท์ ใช้ไฟล่าง-บน นาน 5-7 นาที นำออกจากเตา พักไว้ให้

เย็น นำเข้าเตาอบอีกครั้งที่อุณหภูมิ 300-350 องศาฟาเรนไฮท์ ใช้เฉพาะไฟล่าง นาน 10-15 นาที

หรือจนกระทั่งสุก






Tuna Salad Sandwich

Author: Food Page // Category:

Ingredients:
1 - can (7 ounces) can tuna packed in spring water, drained
1/4 - cup sweet relish
1/2 - cup salad dressing (or mayonnaise)
1/4 - teaspoon salt
1 - tomato, thinly sliced
4 - lettuce leaves
8 - slices bread (your choice)
Directions:
In a mixing bowl, place the tuna and then add the relish, salad dressing (or mayonnaise), and salt.
Mix until the salad dressing (or mayonnaise) covers the tuna.
Spread tuna mixture on a slice of bread, add 2 tomato slices, a leaf of lettuce and top with an additional bread slice.
Picnicking & Tailgating:
You want to wrap each sandwich in plastic wrap, place in a plastic container and keep in ice chest. At the picnic or tailgate site, take out of ice chest just before serving.
Tuna salad is a blend of three main ingredients: tuna fish, some form of mayonnaise or mayonnaise-substitute, and garnish. The tuna used is usually pre-cooked, canned and preserved with spring water or oil. The garnish may consist of celery, grapes, oregano, basil, pickles, black pepper, onions or other ingredients. The garnish provides some contrast in texture and flavor.
The resultant paste is spread between two slices of various styles of bread to make a tuna salad sandwich, although it can be eaten alone. Tuna salad is also often served as a filling between two crackers or as a side dish to a meal (often at a picnic). In the United States, tuna salad is also used to stuff fresh tomatoes as a luncheon dish (usually for ladies).
In Japan, tuna salad is often referred to as (sea chicken).